รวบรวมแนวทางสำหรับคนที่ “ผ่อนบ้านไม่ไหว” แต่ยังทำใจขายบ้านไม่ลง!

ปัญหาที่ว่า “ซื้อบ้านมาแล้วผ่อนไม่ไหว” คงจะเป็นปัญหาที่ผู้คนไม่อยากจะพบเจอกับมันมากที่สุด! เพราะนอกจากบ้านจะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว มันยังเป็นตัวแทนแห่งความสุข ความมุ่งมานะ ความภาคภูมิใจสำหรับคนที่อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักครั้ง แต่! ในเมื่อปัญหามันเกิดขึ้นแล้ว เราก็จำเป็นที่จะต้องหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ที่คุณรู้ตัวว่าผ่อนบ้านไม่ไหวจริงๆ ก็อย่าพึ่งวิตกกังวลใจไป เพราะมันก็ยังมีทางออกสำหรับปัญหานี้อยู่ ซึ่งทางออกที่ว่านี้จะมีอะไรบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า!

ขอผ่อนผันชำระยอดหนี้ค้างชำระ

แนวทางการแก้ไขปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว แนวทางแรกก็คือให้คุณขอผ่อนผันชำระหนี้ค้างชำระกับทางธนาคาร ซึ่งคุณอาจจะขอผ่อนชำระคืนยอดหนี้ที่ค้างได้นานสูงสุดถึง 36 เดือน (ติดต่อกัน) โดยทำได้ใน 3 ลักษณะ คือ…

1.การขอเฉลี่ยหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดออกเป็นงวดๆ โดยแต่ละงวดจะถูกเฉลี่ยให้เท่ากันและผ่อนชำระคืนติดต่อกันทุกเดือน

2.การชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดในเวลาที่ตกลง (จ่ายก้อนเดียว)

3.การขอชำระหนี้ที่ค้างเป็นเงินก้อน แต่แบ่งออกเป็นงวดๆ ตามเวลาที่ตกลง

ขอโอนบ้านให้เป็นของธนาคาร(ชั่วคราว)

แม้ว่าคุณจะผ่อนบ้านไม่ไหว แต่! ทำใจที่จะขายทอดสู่ตลาดไม่ได้ อีกแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ก็คือ “การขอโอนหลักทรัพย์เป็นของธนาคารชั่วคราว” แล้วกลับมาซื้อคืนในภายหลัง ซึ่งส่วนมากทางธนาคารมักจะทำสัญญาเช่าเป็นรายปี โดยจะมีการคิดอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 0.4-0.6% จากมูลค่าหลักทรัพย์ และในกรณีที่ยอดหนี้มีจำนวนมากกว่าราคาประเมิน ในขั้นตอนการซื้อคืนทางธนาคารก็จะขายคืนให้ ซึ่งส่วนมากจะพิจารณาจากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดเป็นหลัก

ขอชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดือน

หากคุณรู้ตัวว่าเป็นลูกหนี้ชั้นดี! ที่ผ่านมาจ่ายค่างวดบ้านตรงตามระยะเวลาที่กำหนดตลอด! แนวทางการแก้ไขปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหวที่เราอยากจะแนะนำเลยก็คือ “ขอชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดือน” ซึ่งวิธีนี้จะสามารถขอดำเนินการได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และส่วนมากทางธนาคารจะให้ระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน อีกทั้งจะอนุมัติให้เฉพาะลูกหนี้ที่มีประวัติดีเท่านั้น! ขอรีไฟแนนซ์บ้าน

การขอรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นอีกหนึ่งทางออกของผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว! ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะช่วยลดค่างวดในแต่ละเดือนให้น้อยลง นั่นก็เท่ากับว่าจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของบ้านนั่นเอง โดยการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะเป็นการย้ายหนี้บ้านจากธนาคารเดิม(ที่เราทำสัญญาในตอนแรก) ไปยังธนาคารใหม่ เพื่อที่เราจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่ถูกลง และข้อสำคัญสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเลยก็คือ คุณต้องผ่อนชำระกับทางธนาคารเดิมมาอย่างน้อย 3 ปี ไม่เช่นนั้นจะมีค่าปรับตามมาอย่างแน่นอน